P500747
คู่มือประกอบรายวิชา คณิตศาสตร์พื้นฐาน ม. 4-6 เล่ม 3
ผู้แต่ง ดร. จักรินทร์ วรรณโพธิ์กลาง
สำนักพิมพ์ บริษัท เรืองแสงการพิมพ์ (2002) จำกัด
พิมพ์ครั้งแรก กรกฎาคม 2554
ราคา 129 บาท
จำนวน 276 หน้า
คู่มือประกอบการเรียนรายวิชา คณิตศาสตร์พื้นฐาน ม.4-6 เล่ม 3 เป็นหนังสือที่มีเนื้อหาตามหลักแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 และยังได้สอดแทรกหลักสูตรพร้อมทั้งเทคนิคคิดลัดต่างๆ โดยหนังสือเล่มนี้จะเด่นในการอธิบายเนื้อหาในหนังสือเล่มนี้จะใช้ภาษาเดียวกับภาษาใช้สอนดังนั้นจึงอ่านง่ายและทำให้ผู้อ่านเพลิดเพลินไปกับบทเรียนทำให้ผู้อ่านรู้สึกว่าผู้เขียนมาสอนให้เอง และยังมีเทคนิคคิดลัดต่างๆ เพื่อให้ผู้สนใจทำข้อสอบแข่งขันได้อย่างรวดเร็ว โดยหนังสือเล่มนี้มีเนื้อหามากมาย อาทิ เช่น
สถิติและข้อมูล
การวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้น
การนำเสนอข้อมูลโดยใช้แผนภูมิและแผนภาพต่างๆ
การสำรวจความคิดเห็น
ลำดับและอนุกรม
เนื่องจากหนังสือเล่มนี้มีเนื้อหาสาระมากมายดิฉันจึงของยกตัวอย่างเนื้อหาที่ดิฉันกำลังเรียนอยู่ปัจจุบันคือ ลำดับ
ลำดับ
ลำดับจะประกอบด้วยลำดับเลขคณิตและลำดับเรขาคณิต
ลำดับเลขคณิต (Arithmetic Sequence or Arithmetic Progression)
ข้อกำหนด ลำดับเลขคณิตคือ ลำดับที่ ผลต่างซึ่งได้จากพจน์ขวามือ (n+1) ลบด้วยพจน์ซ้ายมือ(n) ที่ติดกัน จะมีค่าคงตัวเสมอ
ค่าคงตัวนี้ ถูกเรียกว่า ผลต่างร่วม ( common difference)
สูตรการหาพจน์ที่ n (an) ของลำดับเลขคณิต
an = a1+ (n-1)d
เมื่อ an เป็นพจน์ที่ n หรือพจน์ที่ต้องการหาของลำดับเลขคณิต
a1 เป็นพจน์ที่ 1 ของลำดับเลขคณิต
d เป็นผลต่างร่วม ( common difference)
ตัวอย่าง จงหาพจน์ที่ n (พจน์ทั่วไป) ของลำดับเลขคณิต 3, 7, 11, 15,…….
จากโจทย์จะได้ a1 = 3 และ d = 7-3 = 4 ตรงนี้ต้องคิดในใจนะ
จากสูตร an = a1+ (n-1)d
an = 3 + (n-1)(4)
an = 3+ 4n -4
ดังนั้น an = 4n-1
ตอบ an = 4n-1
ลำดับเรขาคณิต( ceometic sequence or geometic Progression)
ข้อกำหนด ลำดับเรขาคณิต คือ ลำดับที่ อัตราส่วนของพจน์ขวามือ(n+1) ต่อพจน์ซ้ายมือ (n)ที่ติดกัน จะมีค่าคงตัวเสมอ
ค่าคงตัวนี้ถูกเรียกว่า อัตราส่วนร่วม ( common ratio)
สูตรการหาพจน์ที่ n (an) ของลำดับเรขาคณิต
an = a1 rn-1
เมื่อ an เป็นพจน์ที่ n หรือพจน์ที่ต้องการหาของลำดับเรขาคณิต
a1 เป็นพจน์ที่ 1 ของลำดับเรขาคณิต
r เป็นอัตราส่วนร่วม ( common ratio )
ตัวอย่าง จงหาพจน์ที่ n ( พจน์ทั่วไป ) ของลำดับเรขาคณิต 3, 9, 27, 81,
จากโจทย์จะได้ a1 = 3 และ d = =3 ตรงนี้ต้องคิดในใจ
จากสูตร an = a1 rn-1
an = 3 (3)n-1
= 3 (3)n*(3)-1
= n
ดังนั้น an = 3n
หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับมัธยมปลาย หากผู้ที่สนใจจะศึกษาเพิ่มเติมสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ห้องสมุดโรงเรียนฯ